สวัสดีค่ะ สาวๆ อย่าตกใจกับใบหน้าสดของอิชั้นนะคะว่าทำไมถึงกล้าถ่าย!
เพราะเปรมได้ไปร่วม Workshop ของ Luxury แบรนด์นั่นก็คือ ANNE SEMONIN นี่เอง
อยากรู้ว่าแบรนด์นี้มีอะไรเด็ดๆ น่าใช้น่าลองบ้างมาดูกันค่ะ ..
เริ่มต้นการเดินทางไป Workshop ครั้งนี้เราไปกันที่ Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit 57
โรงแรมเลิศ เว่อวังอลังการสมกับแบรนด์ ANNE SEMONIN จริงๆ ค่ะ
จุดแรกเรามา Register กันก่อนนะคะโดยเปรมได้รู้ Workshop นี้จากพี่ โกโก้หรือ TechyLadyGogo นี่เอง
(กราบงามๆ ค่ะ สำหรับกิจกรรมดีดีนะคะพี่โกโก้)
เข้ามาในห้องแล้วก็มีการพูดถึงแบรนด์ ANNE SEMONIN เดี๋ยวเปรมจะสรุปสั้นๆง่ายๆให้นะคะ
โดยแบรนด์ที่ดังมากในต่างประเทศและก็มีคนไทยหลายๆ คนเข้ามาใช้กัน
หลากหลาย หาซื้อได้ตาม Shop Siam Paragon ที่เห็นกันคุ้นๆ ตากันค่ะ
ตัวชูโรงของแบรนด์นี้คือ เนื้อครีม เซรั่ม ที่สามารถ Customize ทุกการใช้งานค่ะ
ขอบอกว่างานเนื้องามดีลืม ดีทุกตัวไม่ได้อวยจริงๆ ดีตามราคาค่ะ ><
อุ๊ยส เม้าส์มาเยอะละมาเข้ากระบวนการ Workshop กันดีกว่าค่ะ
เครื่องมืออุปกรณ์มีที่คาดผม พัฟ กระจก ที่ตักครีม ที่รองตักพร้อมค่ะ
อย่างแรกเลยเราล้างเครื่องสำอางกันก่อนเลยด้วย
ANNA SEMONIN GEL OLIGO CLEANING GEL
เป็นคลีนซิ่งเนื้อเจลตัวแรกที่เปรมลองแล้ว เหยย มันออกหมดอะ
ปกติเปรมจะไม่ค่อยชอบคลีนเซอร์ที่เป็นเนื้อเท่าไหร่แต่ตัวนี้เอาอยู่
เนื้อเจลเย็นๆนะ แต่ไม่ได้ถ่ายเนื้อเจลไว้ (มัวล้างหน้าอยู่ 55)
อันนี้ต้องขอเม้าส์ก่อนเลยว่า พวกผลิตภัณฑ์ที่เป็นคลีนเซอร์ โทนเนอร์ จะมีระบบหมุนขึ้นมาถึงจะใช้ครีมได้ค่ะ
ว๊าย เลิศ! เป็นอะไรที่ดี ไม่ต้องหมุ่นฝากันให้ตาลาย แล้วทำฝากหาย สำหรับคนขี้ลืมฝาหายแบรนด์นี้ปังมาก!
โชว์หน้าสดกันนิดหนึ่ง กับปอยหรือ Porpoy เพื่อนสาวอิชั้นเองค่ะ
มาต่อกันด้วย ANNA SEMONIN MARINE TONER
ค่ะโดยทาง BA บริการดีมากค่ะ เตรียมมาให้พร้อมเลยให้เปรมพร้อมเช็ด
ตัวเนื้อโทนเนอร์ก็กลิ่นของสมุนไพรธรรมชาติ แต่เปรมคิดไม่ออกว่ากลิ่นจำพวกอะไรแต่โอเคค่ะ ไม่คันไม่แพ้
มีทิปมาฝาก : การเช็ดโทนเนอร์ควรเช็ดเบาๆ แล้วเช็ดออกไปด้านนอกของหน้าตัวเองนะ
และโทนเนอร์จะช่วยปรับสภาพผิวให้ลงสกินแคร์ได้ดีขึ้นด้วยนะ
ตามด้วย สครัปหน้าค่ะ ค่ะ งานขัดหน้าต้องมา รู้ไหมคะว่า
การสครัปหน้านี้ดีแต่ต้องมีวิธีที่ถูกต้องถึงจะโอเคนะคะ ><
ตบท้ายด้วยการ Mineral Mask ค่ะ โดยเปรมได้ใช้ 2 ขวดนี้ผสมกันค่ะ
งานโบกมาเลยค่ะ ส่วนครีมของอิชั้นซึมไวอย่างน่าตกใจ พี่สไปรท์บอกว่า
ถ้าซึมไวแปลว่าผิวค่อนข้างดีค่ะ .. คิคิ
ตบท้ายด้วยตัวชูโรงของงานนี้เลยค่ะ คือน้องครีมน้องเซรัม ทั้งหลายทั้งมวลนะ
โดยไล่จากซ้ายไปขวาเลยละกันว่าแต่ละสูตรเป็นไงบ้าง
Brightenting Serum (ตัวซ้าย)
เซรัมเนื้อบางเบาที่เปรมว่าเหมาะกับคนไทยสมัยนี้ที่หน้ามัน+ผสม
โดยทำให้ผิวเราสว่างกระจ่างใสขึ้นค่ะ (ตัวนี้ไม่มีกันแดดนะ)
Oligo Protect Cream SPF15 (ตัวกลาง)
เป็นครีมที่ช่วยให้กระจ่างใส ให้ความชุ่มชื่นและให้หน้าดูเยาว์วัยขึ้นด้วย
สาวเลข 3 เลข 4 เหมาะมากเลยนะคะ ที่สำคัญมีกันแดดด้วย ดีไปอีกค่ะ
Brightenting Cream (ตัวขวา)
ครีมที่ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยจุดด่างดำ ป้องกันมลภาวะในเมือง
ชะลอความแก่ พร้อมมีสารกันแดดค่ะ ตัวนี้อะปังสุด
แต่ อิชั้นชอบขวด Serum มากกว่าค่ะ ><
——————————
ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เลอค่าและคุ้มค่ากับราคากันเลยทีเดียว
ราคานั้นจะตกประมาณขวดละ 7,000 กว่า บาท โดยประมาณค่ะ
หวังว่าใครชอบแบรนด์นี้ลองไปเล่นหรือไปศึกษาข้อมูลได้ที่
เพจ Anne Semonin Thailand ได้เลยค่ะ
สำหรับบทความนี้ลาไปก่อนสวัสดิค่ะ #pemikaz