สวัสดีค่า สวัสดีค่ะ พบกับเปมิกาอีกแล้วเช่นเคยนะคะ
ช่วงนี้แอบบอกตามตรงไม่ทากันแดดค่ะ หน้าหมอง สิวมา เลยก็ต้องไปกดสิวอีก
รอยดำจุดดำต็มหน้าไปหมดเลย ก็เลยมีไอเทมนุงที่อยากลองและได้ยินส่วนผสมก็ว้าวแล้ว
ว่าแต่น้องคนนี้มีชื่อว่าอะไรไหนเล่าซิ๊!!
Eucerin UltraWhite+Double Booster Serum
“ลดจุดด่างดำ ฝ้าแดด ได้ดีกว่า 10 เท่า ผิวขาวใส อิ่มฟู เนียนเด้งใน 2 สัปดาห์”
นี่คือสโลแกนอัน เด่งดังของนางค่ะ เพราะรอบนี้เค้านำ 2 เซรั่มเด็ดที่ไม่มีใครทำนั่นก็คือ
“ไทอามิดอล + ไฮยาลูรอน”
โดยน้องทั้ง 2 คนนี้จะช่วยให้ผิวขาว ลดฝ้ากระ รอยดำ + ผิวเด้ง อิ่มฟู เนียน โกลว์ ค่ะ
และมีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของไทอามิดอล มีทั้งจากเยอรมัน
และจากอาจารย์หมอจุฬาที่ทดลองกับผิวคนไทยด้วยนะ เค้าว่าไงมาดูกันค่ะ
- ไวท์เทนนิ่งที่ดี ไม่ใช่แค่ลดจุดด่างดำ แต่ต้องไปยับยั้งต้นเหตุของการเกิดจุดด่างดำ คือ ยับยั้งที่เอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งพูดง่ายๆ เจ้าเอนไซม์ไทโรซิเนสเนี่ย เป็นตัวทำให้เกิดจุดด่างดำ กระ ฝ้า หรือการผลิตเม็ดสีต่างๆค่ะ ถ้าจัดการเจ้าตัวนี้ได้ หน้าเราก็จะมีสีผิวเรียบเนียนไม่มีกระด่างกระดำค่า
- สารไวท์เทนนิ่งทั่วไปในท้องตลาดที่เคลมว่า ลดจุดด่างดำได้ ลดฝ้าได้ต่างล้วนแต่ทดลองกับเอนไซม์ไทโรซิเนสของเห็ด นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าเมื่อนำครีมหรือเซรั่มมาใช้กับผิวคนจริงๆจึงไม่ค่อยเห็นผล แต่ไทอามิดอล ถูกคิดค้นเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสในมนุษย์โดยผ่านการทดลองกับเซลล์สังเคราะห์ที่มาจากเซลล์ผิวมนุษย์จริงๆไม่ใช่เห็ด เวลาใช้จริงจึงเห็นผลดีชัดเจน ซึ่งก็จริงนะ สุดท้ายทั้งครีมและเซรั่มจะใช้กับผิวคนเราก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทดลองแล้วเวิร์คกับผิวคนเนี่ยแหละเนอะ
- มีงานวิจัยจากอาจารย์หมอที่ รพ. จุฬาฯ ที่ทดลองกับคนไข้ชาวไทย ที่มีปัญหาฝ้าระดับความรุนแรงคือเล็กน้อยถึงปานกลาง เพื่อเทียบผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ UltraWHITE+ Spotless ของยูเซอริน ซึ่งมีสารไทอามิดอล โดยใช้เทียบกับยารักษาฝ้าว่าอะไรจะดีกว่ากัน ซึ่งยาที่ใช้คือ Hydroquinone (ไฮโดรควิโนน) + Arbutin (อาร์บูติน) อาจารย์หมอก็แบ่งหน้าคนไข้ให้ครึ่งนึงทายูเซอริน อีกครึ่งนึงทายารักษาฝ้า แล้วให้เวลา 12 สัปดาห์ แล้วกลับมาวัดและประเมินผลโดยอาจารย์หมอเอง ซึ่งอาจารย์หมอบอกว่าเป็นการทดลองที่วัดใจมากๆ เพราะปกติเค้าไม่เอาสกินแคร์มาเทียบกับยาอยู่แล้ว แล้วนี่ความโหดคือเอาสกินแคร์มาเทียบกับยาที่เป็นตัวแม่ในการรักษาฝ้าตามมาตรฐานของโรงพยาบาลจุฬาฯเลย ปรากฏว่าใช้ยูเซอรินเห็นผลดีกว่า (ว้าวมากๆ) คือขนาดฝ้าที่จัดการยากยังจางลงอะ จุดดำ รอยดำ รอยสิวก็เอาอยู่จริง
- ทดลองกับผิวคนไทย พบว่า ไม่ระคายเคือง ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ซึ่งดีกว่ายาตรงที่ ยาต้องใช้ภายใต้การดูแลของหมอ ไม่งั้นหากใช้ยารักษาฝ้าเยอะไปหน้าอาจจะกลับมาดำกว่าเดิม
- ได้ตีพิมพ์ในวารสาร JID ระดับโลก แปลว่า เป็นนวัตกรรมระดับโลก มีความน่าเชื่อถือมากถึงมากที่สุด ซึ่ง JID เนี่ยหมอผิวหนังทุกคนที่ทำงานวิจัยก็ใฝ่ฝันว่าผลงานวิจัยของตัวเองจะได้รับการตีพิมพ์
สำหรับตัวเซรั่มขวดนี้จะมีความพิเศษคือมี 2เซรั่มเข้มข้นในขวดเดียวกัน
แพ็กเกจ : เป็นขวดพลาสติก เบาพกพาง่าย ตรงขวดเป็นฝาปั้ม แยกเนื้อเซรั่มอย่างชัดเจนเพื่อความเสถียรของ2เซรั่ม คือแยกเก็บ จะรวมกันก็เฉพาะตอนจะใช้ คือสดใหม่ทุกครั้งที่ใช้เลย
เนื้อเซรั่ม : สีขาวคือไทอามิดอล และเจลใสข้างขวาคือไฮยาลูรอนบริสุทธิ์ค่ะ เนื้อเกลี่ยง่ายซึมไว ไม่เหนอะ ไม่หนักผิวเลย
ขอพูดเรื่องไฮยาลูรอนที่เค้าใส่มาเพิ่มความอิ่มฟู เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวนิดนึงนะคะ
คือดีมากเลยเพราะความชุ่มชื้นเป็นปัจจัยพื้นฐานของผิวสุขภาพดี คือพร้อมรับการบำรุงมากกว่าผิวแห้งขาดน้ำ
อารมณ์ว่าหากผิวชุ่มชื้น บำรุงอะไรก็เห็นผลดีกว่าผิวแห้งขาดน้ำค่ะ
เดี๋ยวจะหาว่าโม้ค่ะ เปรมได้ลองใช้จริงประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ แล้วขอสรุปผลการใช้ดังนี้
- ผิวขาวใสขึ้น รอยแดง รอยดำดูจางลง อย่างเห็นได้ชัด (หน้าฝาก แก้มลดได้ดี)
- ผิวมีความชุ่มชื้นใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน พกพาสะดวกไปยิมได้ด้วย
- ใช้แล้วไม่แพ้ (นี่ดีใจมาก) และผิวแข็งแรงอัตราสิวเกิดใหม่ก็ลดลงไปเลย
- เนื้อสัมผัสทั้ง 2 เบากว่าที่คิดว่า ตอนแรกที่ใช้หน้าไหลๆ แน่ๆ แต่ไม่รอดค่ะ
ราคาเท่าไหร่? หาซื้อได้ที่ไหน?
ขนาด 30ml ราคา 2,100 บาท
หาซื้อได้ที่ร้านบู๊ตส์ ร้านวัตสัน อีฟแอนด์บอย บิวเทรี่ยม
และ ร้านขายยาขนาดใหญ่ทั่วประเทศใครสนใจช้อปปิ้งออนไลน์
แนะนำให้ซื้อกับ www.eucerin.co.th เท่านั้นนะคะ
….
สำหรับรีวิวนี้เปรมขอลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ
